ความละเอียดพิถีพิถันในการชงกาแฟคือศิลปะอีกแขนงหนึ่ง ทุกกระบวนการตั้งแต่เริ่มจนจบล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างงานศิลปะชิ้นเอก ซึ่งกาแฟพิเศษที่เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักนี้ มีความแตกต่างกับกาแฟทั่วไปอยู่มาก ด้วยความใส่ใจ “พิเศษ” โดยเฉพาะ ทำให้กาแฟชนิดนี้เป็นอีกขั้นที่มากกว่าของกาแฟปกติทั่วไป ซึ่งที่ Hillkoff ก็มีกาแฟส เปเชียลตี้ขึ้นชื่อที่เราคัดพิเศษให้คุณหลากหลายแบบ และใส่ใจสิ่งแวดล้อม ซึ่งหลายคนคงสงสัยว่า specialty coffee คือกาแฟอะไร? แล้วพิเศษที่ว่ามาจากอะไร หาคำตอบได้กับเราที่นี่
กาแฟ specialty คือ กาแฟที่ผ่านการคัดสรรที่ดีที่สุด ด้วยการคัดด้วยมือ หรือ Hand picked ทีละเมล็ดให้ได้ขนาดเท่ากัน เพื่อให้คุณภาพของน้ำกาแฟที่สกัดออกมาเข้มข้น จนเป็นกาแฟคุณภาพที่มีการรับรองมาตรฐานจากผู้เชี่ยวชาญทางกาแฟ ซึ่งต้นกำเนิดเมล็ดกาแฟ specialty coffee เริ่มมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ต้องบอกว่าในอดีตกาแฟเป็นที่นิยมสูงมาก เมื่อเป็นเครื่องดื่มยอดฮิตก็ทำให้กาแฟที่ออกมาจำนวนมากไม่ได้คุณภาพ ทำให้เหล่าคอกาแฟนักชิม (Cupper) ทั้งหลายต้องตั้งมาตรฐานกาแฟขึ้นมา เพื่อทำ การทดสอบการผลิตกาแฟ ตั้งแต่เพาะปลูกกาแฟ คัดเมล็ด การคั่วกาแฟ การบด กลั่น จนไปถึง Clean Cup ความสะอาดโดยรวมของกาแฟหนึ่งแก้ว โดยคะแนนที่จะผ่านมาตรฐานที่ได้จากผู้เชี่ยวชาญต้องได้ 80 คะแนนขึ้นไป จะถือว่าได้เป็น Specialty Coffee Beans เมล็ดกาแฟที่จะได้คำว่าพิเศษเป็นนามสกุลต่อท้าย
ทั้งนี้ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็มีสมาคมกาแฟพิเศษที่เรียกว่า SCAA เพื่อเป็นผู้ทดสอบให้คะแนนกาแฟนั้น ๆ ในประเทศไทยเองก็มีสมาคมกาแฟพิเศษไทย SCATH เข้ามามีส่วนร่วมในการคัดสรร สร้างคุณภาพให้กาแฟไทยในแต่ละกระบวนการ เพื่อพัฒนาตลาดกาแฟ และเมล็ดกาแฟไทยให้ได้มาตรฐานมีคุณภาพมากที่สุด
พอทราบต้นกำเนิดกาแฟพิเศษกันบ้างแล้ว คุณจะเห็นว่าความแตกต่างระหว่างกาแฟธรรมดากับกาแฟพิเศษที่แตกต่างกัน คือ กาแฟที่ผ่านความใส่ใจตั้งแต่แรกเริ่มคัดกาแฟสายพันธุ์ไหนที่จะนำมาเป็นซิกเนเจอร์ร้านกาแฟของคุณ เพราะ specialty coffee หมายถึง การทำกาแฟที่มีดำเนินตามกระบวนการผลิตกาแฟตามมาตรฐาน คัดสรรตั้งแต่พันธ์กาแฟ ตลอดจนการคัดแยกขนาดเมล็ดด้วยมือทีละเมล็ด หากเป็นกาแฟปกตินั้นอาจใช้เกณฑ์ตรวจเดียวกัน แต่ผลการทดสอบคะแนนรวมจะไม่ถึง 80 คะแนน ทำให้ยังไม่ได้เป็นกาแฟพิเศษ นอกจากนี้รสชาติของเมล็ดกาแฟพิเศษอาจจะจำกัดสักหน่อย กล่าวคือส่วนใหญ่จะเป็นการคั่วแบบอ่อน เพื่อคงรสธรรมชาติที่มีคุณภาพของกาแฟนั้น ๆ ให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นแล้วหากคุณเห็นกาแฟที่มี specialty coffee เติมท้าย คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่ากาแฟที่คุณถืออยู่ ผ่านการคิดค้นจนได้กาแฟที่ดี ที่รับประกันได้ว่าผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพของกาแฟจากนักดื่มกาแฟผู้เชี่ยวชาญโดยตรง เขามาตรวจสอบตั้งแต่เริ่มกระบวนการจนไปถึงได้กาแฟหนึ่งแก้ว
เมื่อพูดถึงกาแฟพิเศษ ในตลาดกาแฟไทย ต้องมี Hollkoff ศูนย์รวมธุรกิจกาแฟสุดครบครัน มีสาขาทั้งหมด 3 แห่งในไทย ได้แก่ 3 สาขาเชียงใหม่ สาขาที่กรุงเทพฯ และลาดพร้าว ซอย1 ทั้งนี้เราเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับกาแฟ และบริการเป็นอย่างมาก ด้วยความที่ฮิลล์คอฟฟ์มีพันธมิตรเกษตรกรที่แข็งแกร่ง โดยเราได้เข้าไปดูแลตั้งเลือกสายพันธ์ุจนได้กาแฟที่มีคุณภาพจากชาวไทยภูเขา และด้วยความที่เรารู้จักกาแฟที่ปลูกเป็นอย่างดี ทำให้กระบวนการต่าง ๆ ของ Specialty Coffee สามารถดึงศักยภาพของกาแฟในฮิลล์คอฟฟ์ออกมาให้มากที่สุด ทำให้กาแฟของเราเป็น specialty coffee คุณภาพดี โดดเด่น น่าค้นหาด้วยความหลากหลาย ที่ต้องการส่งมอบความสดชื่น สดใส ในทุก ๆ วัน
นอกจากเมล็ดกาแฟ specialty ของฮิลล์คอฟฟ์ได้มาตรฐานแล้ว ยังมีเอกลักษณ์ ทั้งรสชาติกาแฟชัดเจน และกลิ่นเอกลักษณ์ หอมละมุน ที่ทำให้กาแฟพิเศษในฮิลล์คอฟฟ์พิเศษมากยิ่งขึ้น โดย thai specialty coffee ของฮิลล์คอฟฟ์ที่มีแหล่งปลูกจากประเทศไทย กับกระบวนการผลิตรักษ์โลก เราเป็นบริษัทผลิตกาแฟที่สามารถลด Carbon Footprint ได้มากที่สุดในประเทศไทย โดยรสชาติที่ specialty coffee beans ได้ ตั้งแต่เริ่มดื่มจนถึงรสชาติสุดท้ายติดปลายลิ้น มีความสมดุลเข้ากันมากที่สุด
แนะนำสินค้า:
กาแฟอราบิก้าแท้ 100% จากแหล่งปลูกในเชียงใหม่ “ห้วยน้ำขุ่น” กาแฟคั่วกลาง มีเอกลักษณ์กาแฟ รวมถึงกระบวนการทำไม่เหมือนใคร อย่าง Red Honey Process พร้อมนวัตกรรม Smart Dome ด้วยพลังงานสะอาดช่วยควบคุมการแปรรูปได้ดี ให้กลิ่นเบอร์รี่ และไวน์หอมละมุน รสเปรี้ยวมอมหวานอย่างลงตัว
นอกจากนั้นยังมี Specialty Coffee ที่มี taste note อื่น ๆ อีก ให้คุณได้ลือกตามความชอบของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็น Kanom ที่มี taste note สัมผัสได้ถึงกลิ่นใบตองปิ้งอ่อน ๆ หรือ Galatte ที่ให้ความรู้สึกเหมือนขนมหวานและคาราเมล เป็นต้น
