ธุรกิจร้านกาแฟเป็นธุรกิจในฝันของใครหลายคน จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีการเปิดคาเฟ่หรือร้านกาแฟเกิดขึ้นมาจำนวนมาก อาจเป็นเพราะการเปิดร้านกาแฟเป็นเหมือนการสร้างพื้นที่ให้เราได้แสดงตัวตนผ่านรสชาติอันหอมกรุ่นของกาแฟ ผ่านการตกแต่งร้านตามสไตล์และความชื่นชอบที่เป็นเอกลักษณ์ของเราและผ่านการบริการที่ตั้งใจส่งมอบความสุขแบบเรียบง่ายให้แก่ลูกค้า อย่างไรก็ตามแม้การแข่งขันจะสูงแต่ธุรกิจร้านกาแฟก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และหากคุณคือหนึ่งในผู้มีความฝันอยากเปิดร้านกาแฟเป็นของตัวเองแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทำร้านกาแฟจากตรงไหน ในบทความนี้เราจะมาช่วยแนะนำข้อมูลการเปิดร้านกาแฟ ตั้งแต่การวางแผนเปิดร้านกาแฟ การเตรียมเปิดร้านกาแฟ การชงกาแฟ ไปจนถึงต้นทุนร้านกาแฟที่เหมาะสมให้คุณได้เปิดร้านคาเฟ่ ที่ดึงดูดลูกค้า สร้างกำไร และอยู่ในระยะยาวได้
ก่อนจะไปเริ่มเรียนเปิดร้านกาแฟ สิ่งแรกที่คุณควรทำความรู้จักคือ รูปแบบของธุรกิจร้านคาเฟ่ในไทยว่ามีอะไรบ้าง เพื่อเข้าใจตลาดและคู่แข่ง ตลอดจนเพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าอยากเปิดร้านคาเฟ่แบบไหน ซึ่งธุรกิจขายกาแฟในไทยหลัก ๆ แล้วก็จะมีให้เลือก 3 รูปแบบดังนี้
รูปแบบการสร้างร้านกาแฟนี้เป็นความนิยมกระแสหลักในยุคนี้เลยก็ว่าได้ หลายคนอยากเปิดคาเฟ่ Stand alone เป็นร้านในนามตัวเองที่มีสัดส่วนของร้านชัดเจน ไม่ใช่เฟรนไชส์หรือร้านกาแฟทั่วไป ส่วนใหญ่จะตั้งเป็นอาคารอิสระ ห้องเช่า หรือทําร้านกาแฟหน้าบ้านตัวเองก็ได้ โดยการทำธุรกิจร้านกาแฟประเภทนี้มักจะมีการตกแต่งภายในที่สามารถแสดงเอกลักษณ์หรือคาแรคเตอร์ของร้านได้แบบอิสระเพื่อสร้างความโดดเด่น และดึงดูดลูกค้า ขณะเดียวกันหากจะเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟ Stand Alone นี้ อาจจะต้องลงทุนเปิดร้านคาเฟ่ค่อนข้างสูงและต้องควบคุมดูแลเองตลอด แต่ผลกำไรที่ได้รับก็สูงมาก ๆ เช่นเดียวกัน
หากจะเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ แนะนำให้ทําร้านกาแฟงบน้อยแบบ Corner ธุรกิจคาเฟ่กาแฟแบบนี้จะใช้งบสร้างร้านกาแฟหลักหมื่นถึงแสนเท่านั้น ส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการเปิดแฟ รน ไช ส์กาแฟ และตั้งร้านกาแฟ ตามห้างสรรพสินค้า มุมกาแฟภายในอาคาร ศูนย์การค้า ในพื้นที่ไม่เกิน 6 ตารางเมตร และไม่มีพื้นที่ให้นั่ง หรือหากมีก็จะมีให้นั่งน้อย ข้อดีของการเปิดแฟรนไช ส์ร้านกาแฟ คือ เราไม่จำเป็นต้องทําร้านกาแฟเอง เจ้าของเฟรนไชส์ตั้งร้านกาแฟให้ตามทำเลที่คุณเลือก พร้อมอุปกรณ์ชงกาแฟ วัตถุดิบ และสูตรการชงกาแฟ ตลอดจนระบบบริหารจัดการแบบสำเร็จรูป เพื่อให้คุณสามารถสร้างกำไรได้ แต่ก็ข้อเสียคือรูปแบบร้านอาจไม่เป็นไปตามที่คุณต้องการ
ถ้าจะเปิดร้านกาแฟข้างทาง หรือทําร้านกาแฟแบบประหยัด การเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ในรูปแบบ Cart หรือร้านกาแฟประเภทรถเข็นก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นิยมมากในไทย ใช้ทุน ทําร้านกาแฟไม่สูง สะดวกกว่า สามารถย้ายทำเลได้เรื่อย ๆ เข้าถึงตลาดได้หลากหลาย สามารถเปิดแฟ รน ไช ส์กาแฟ หรือเปิดร้านกาแฟสดที่กำหนดเองได้ตามต้องการ ประหยัดกว่าต้นทุนเปิดคาเฟ่แบบ Stand Alone หรือแบบ Corner และแม้จะเป็นการเปิดร้านขายกาแฟเล็ก ๆ แต่ก็สามารถทำรายได้ได้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เพราะราคาเมนูกาแฟไม่สูงมากเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายและเยอะกว่าด้วย
การเริ่มต้นธุรกิจร้านกาแฟนั้นมีขั้นตอนเปิดร้านกาแฟที่ควรคำนึงก่อนที่จะเริ่มต้นเปิดคาเฟ่จริง ๆ อยู่ เพื่อเตรียมเปิดร้านกาแฟให้พร้อมและเกิดผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะความประทับใจแรกส่งผลต่อการใช้บริการครั้งต่อไปเสมอ ดังนั้นหากเราสามารถเริ่มเปิดร้านกาแฟได้ดีตั้งแต่วันแรก ก็จะเป็นผลดีในระยะยาวได้ ซึ่งหลักการเปิดร้านกาแฟให้สมบูรณ์แบบนั้น ก็จะมีดังนี้
การเริ่มต้นทําธุรกิจร้านกาแฟสิ่งแรกที่ต้องมีนอกจากภาพในฝัน ก็คือต้นทุนเปิดร้านกาแฟ เพราะแน่นอนว่าหากเราไม่มีงบทำร้านกาแฟ การเปิดธุรกิจร้านกาแฟของคุณก็จะเป็นเพียงภาพฝันต่อไป ต้นทุน การทําร้านกาแฟนั้นไม่จำเป็นต้องเยอะเสมอไป เพราะร้านกาแฟมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกทำ คุณสามารถเลือกวิธีทําร้านกาแฟเล็ก ๆ ในงบร้านกาแฟเล็ก ๆ หลักหมื่น ไปจนถึงงบเปิดร้านคาเฟ่ขนาดใหญ่ ๆ ในระดับแสนถึงล้าน อย่างไรก็ตามเมื่อคุณมีเงินลงทุนร้านกาแฟ 1 ก้อน คุณควรจัดสรรปันส่วนค่าใช้จ่ายเปิดร้านกาแฟแต่ละรายการไว้ให้ดี ตั้งแต่ในส่วนของค่าทำเล ค่าตกแต่ง ค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบ ค่าจ้างพนักงาน ค่าสิ่งอำนวยความสะดวกภายในร้าน และอื่น ๆ ซึ่งเราจะไปขยายความในหัวข้องบในการเปิดร้านกาแฟต่อไป
ทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คือวิธีเปิดร้านกาแฟที่สำคัญมาก จะลงทุนเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ไว้ดีแค่ไหน ทำเลไม่ดีก็ล้มเหลวได้ ดังนั้น ต่อให้คุณจะเป็นร้านกาแฟรถเข็น ร้านในห้าง หรือคาเฟ่เดี่ยว ๆ การหาทำเลที่ต้องการเปิดร้านกาแฟ เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องใช้เวลาอย่างมาก ต้องดูในหลาย ๆ เรื่องทั้งการเข้าถึง พื้นที่แวดล้อม และที่จอดรถ เพราะจะส่งผลต่อจำนวนลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายอย่างมาก หากคุณเปิดในห้างสรรพสินค้า ก็ควรเป็นจุดที่มีคนผ่านตลอด หรือหากคุณทําร้านกาแฟหน้าบ้านกลุ่มลูกค้าของคุณก็อาจจะแคบลง ควรหาจุดสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้า อาจใช้สื่อออนไลน์เข้าช่วย หรือการประชาสัมพันธ์ด้วยโปรโมชั่นในระยะเริ่มต้นทำร้านกาแฟ หรือหาคุณเปิดร้านกาแฟสดรถเข็นที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ก็อาจจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ตามช่วงเวลา เพื่อเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น
ชื่อร้านควรแสดงออกถึงตัวตนและคาแรคเตอร์ของร้าน ควรมีจุดเด่นและน่าจดจำ เช่นเดียวกับโลโก้ของร้าน เพราะมันจะเป็นจุดที่สร้างความแตกต่างและทำให้คุณโดดเด่นขึ้นมาได้ ตลอดจนเป็นจุดประชาสัมพันธ์ของคุณในทางอ้อมอีกด้วย เพราะถ้าชื่อร้านน่าจดจำ โลโก้สวยมีเอกลักณ์ ใครก็อยากมาถ่ายรูปและเช็คอินที่ร้านของคุณกันทั้งนั้น ดังนั้นวิธีเปิดร้านกาแฟข้อนี้สำคัญมาก อย่าลืมเด็ดขาด!!
เมื่อได้มีงบเปิดร้านกาแฟ มีชื่อร้านที่น่าสนใจและทำเลที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอน การทําร้านกาแฟต่อไปคือการสร้างมันขึ้นมา คุณควรมีแนวทางเปิดร้านกาแฟ หรือสไตล์ร้านกาแฟของคุณเอง ซึ่งก็มีหลากหลายแนว เช่น ฮิปสเตอร์, มินิมอล, Slow bar, Loft, Modern หรือจะเป็นแนวยุโรป อื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อให้คุณสามารถตีกรอบการตกแต่ง และการออกแบบทั้งภายนอกและภายในให้เป็นไปในทางเดียวกันได้ ข้อนี้ต้องบอกเลยว่าสำคัญมาก เพราะปัจจุบันผู้คนชอบเที่ยวคาเฟ่เพื่อถ่ายรูปและสร้างคอนเทนต์ลงสื่อโซเชียล หากคุณทำร้านคาเฟ่ให้ดูดี มีสไตล์น่านั่ง น่าถ่ายรูป มันจะกลายเป็นความประทับใจแรกในการดึงดูดผู้คนให้หลั่งไหลเข้ามา Check-in ส่วนการกลับมาใช้บริการซ้ำนั้นเป็นเรื่องรสชาติกาแฟ และการบริการที่ดี
วิธีเปิดคาเฟ่ต่อมา คือการเตรียมเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่จะให้บริการ หลัก ๆ แล้วเมนูกาแฟและเครื่องดื่มที่ควรให้บริการก็จะมีเซตมาตรฐานของมันอยู่แล้ว บางร้านอาจมีแค่เมนูกาแฟ เช่น เอสเพรสโซ่ มอคค่า ลาเต้ อเมริกาโน่ หรืออาจเพิ่มเมนูชา สมูทตี้ เมนูของหวาน เช่น เค้ก หรือไอศกรีม เป็นต้น ขึ้นอยู่กับการวางแผนของร้านกาแฟ เพราะจำนวนของเมนูก็ส่งผลต่อทุนเปิดร้านกาแฟและรายได้ที่จะได้รับเช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือรสชาติและคุณภาพของทุกเมนู ควรอยู่ในเกณฑ์ดีและดีที่สุดเท่านั้น เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีตั้งแต่การเปิดร้านขายกาแฟครั้งแรก ยังสามารถดึงดูดลูกค้าในระยะยาวได้อีกด้วย ใครที่คิดจะลงทุนเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ การเตรียมเมนูกาแฟนั้นสำคัญมาก มองข้ามไม่ได้เลย
แม้ว่าจะมีเมนูกาแฟพื้นฐานแล้ว แต่อย่าลืมว่าร้านกาแฟหรือคาเฟ่อื่น ๆ ก็มีเหมือนกัน ดังนั้นเพื่อสร้างความแตกต่างและทำให้เราโดดเด่นเหนือคู่แข่ง เมนูเฉพาะของทางร้าน หรือที่เรามักเรียกว่า Signature Dish คือตัวช่วยที่ดีเลยทีเดียว วิธีการทําร้านกาแฟขั้นตอนนี้เป็นเรื่องทางร้านจะต้องคิดค้นหาเมนูและรสชาติที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร ที่สำคัญคือต้องอร่อยและน่าจดจำ ลูกค้าที่ได้ลองชิมแล้วต้องติดใจ อยากกลับมายังร้านกาแฟของคุณเพื่อสั่งเมนูนี้อีก
หากคุณเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ในระยะแรกอาจไม่จำเป็นต้องใช้กำลังคนมากนัก ถ้าสามารถทำคนเดียวได้ก็จะประหยัดงบเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ได้ แต่หากเปิดมาได้สักระยะ เริ่มอยู่ตัว ลูกค้ามากขึ้น การมีพนักงานก็อาจจะช่วยผ่อนแรงคุณไปได้เยอะเลย แต่หากคุณเปิดร้านคาเฟ่ใหญ่ ๆ ก็ควรมีพนักงานเลยตั้งแต่เริ่มเปิดร้านกาแฟ เพื่อตั้งระบบการบริการจัดการ ที่สำคัญคือการสอนงาน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องระบบหลังบ้าน การบริการ การต้อนรับหรือการชงกาแฟตามสูตรเฉพาะของทางร้าน นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของเวลาเข้างาน การเวียนกะ และเครื่องแต่งกายของพนักงาน การสร้างแนวทางเปิดร้านกาแฟไว้แบบนี้จะช่วยคงไว้ซึ่งมาตรฐาน ป้องกันข้อผิดพลาด และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ร้านกาแฟของคุณได้เป็นอย่างดี
อยากทําธุรกิจร้านกาแฟไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะอยากทำก็ทำเลย เพราะร้านกาแฟที่สามารถอยู่ตัวได้ในระยะยาวต้องมีการเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟที่ดี มีระบบบริหารจัดการอย่างเป็นระบบระเบียบ เพราะถ้าหลังบ้านเราดี ก็จะส่งผลต่อบริการหน้าบ้านให้ดีตาม ซึ่งระบบการบริหารจัดการของวิธีการเปิดร้านกาแฟ ก็จะมีตั้งแต่การจัดจ้างพนักงาน การจัดแบ่งหน้าที่ของพนักงาน การเช็คคลังสินค้าหรือวัตถุดิบ การจัดการบัญชี การจัดสรรงบประมาณการเปิดร้านกาแฟ เป็นต้น
เตรียมของเปิดร้านกาแฟเป็นสิ่งสำคัญ เพราะร้านกาแฟจะดำเนินไปได้ต้องมีอุปกรณ์กาแฟและวัตถุดิบที่ครบครันเตรียมพร้อมอยู่เสมอ แต่นั่นก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ในความาเป็นจริงหากคุณคิดจะเปิด ร้านกาแฟ คุณต้องตระหนักเอาไว้ว่าลูกค้าไม่ได้ต้องการแค่เมนูกาแฟหรือของหวานเพียงเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่ต้องให้บริการควบคู่ไปด้วย เช่น สัญญาณไวไฟ, ระบบชำระเงิน, ปลั๊กไฟ, โต๊ะนั่งที่เพียงพอ, แสงสว่าง เป็นต้น
เมื่อทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้ดีตามวิธีการเปิดร้านกาแฟที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ เมนูเครื่องดื่มและอาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อุปกรณ์และวัตถุดิบกาแฟ ตลอดจนการบริการและการต้อนรับ ทีนี้ก็ถึงเวลาเปิดร้านกาแฟให้กลุ่มลูกค้าทราบอย่างทั่วถึงว่าร้านของคุณนั้นพร้อมให้บริการ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันการแสดงป้ายเปิดร้านนั้นไม่เพียงพอแล้ว เพื่อให้ฐานลูกค้าของคุณขยายตัวมากขึ้น การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียอาจเป็นวิธีเปิดคาเฟ่ที่ได้ประสิทธิภาพมากกว่า เพราะคุณสามารถขยายฐานลูกค้าให้ไม่จำกัดเพียงแค่ลูกค้าในพื้นที่ แต่เป็นลูกค้าทุกคนจากโลกออนไลน์ที่สนใจร้านกาแฟของคุณจากสื่อที่คุณนำเสนอ อาจเป็นตัวคาเฟ่ที่ตกแต่งสวย น่ามาถ่ายรูป หรืออาจเป็นเมนูเครื่องดื่มและอาหารที่น่ากิน หรืออาจเป็นโปรโมชั่นที่น่าสนใจของร้านคุณก็ได้
อยากทำร้านกาแฟ หรือเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ต้นทุนทำร้านกาแฟเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ๆ เลย โดยการลงทุนร้านคาเฟ่ คุณจะต้องมีงบลงทุนร้านกาแฟ และแบ่งสรรปันส่วนการลงทุนเปิดร้านกาแฟแต่ละรายการไว้อย่างดีและรอบคอบ เพราะการเปิดร้านกาแฟ ต่อให้จะเป็นลงทุนร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่ก็มีรายละเอียดปลีกย่อยให้ต้องคำนึงถึงเยอะมาก การวางแผนลงทุนเปิดร้านกาแฟจึงเป็นเรื่องสำคัญ มาดูกันว่าเราควรวางแผนและจัดสรรงบประมาณการเปิดร้านกาแฟยังไงบ้าง
เมื่อคุณสนใจเปิดร้านกาแฟและมีเงินลงทุนเปิดคาเฟ่แล้ว ในระยะแรกของการเริ่มต้นทําธุรกิจร้านกาแฟ เงินส่วนนี้ควรถูกจัดสรรไปใช้กับการก่อสร้าง ค่าเช่าที่ ค่าตกแต่ง ค่าอุปกรณ์ชงกาแฟ เครื่องชงกาแฟ และวัตถุดิบต่าง ๆ ซึ่งหากเป็นร้านคาเฟ่ใหญ่ก็จะใช้งบสร้างร้านกาแฟในระยะนี้ราว ๆ 200,000-1000,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดและธุรกิจร้านกาแฟของคุณ แต่หากคุณเปิดแฟ รน ไช ส์ร้านกาแฟ ต้นทุนก็อาจจะลดลงไปตามเฟรนไชส์ที่คุณสนใจจะเปิด
เมื่อคุณเปิดร้านกาแฟ ต้นทุนสำหรับการเริ่มต้นนั้นแยกส่วนกับเงินทุนหมุนเวียน ต้นทุนทำร้านกาแฟคือเงินส่วนที่ใช้สำหรับสร้างร้านขึ้นมา ซึ่งจะถูกใช้ในระยะเริ่มต้น ส่วนเงินทุนหมุนเวียนคือเงินที่จะใช้ในระหว่างดำเนินธุรกิจ เพราะธุรกิจขายกาแฟ คือธุรกิจที่ต้องลงทุนตลอด จึงต้องมีทุนไว้ใช้หมุนเวียนอยู่เสมอเพื่อใช้ลงทุนขายกาแฟสดในวันต่อ ๆ ไปอย่างต่อเนื่อง โดยหลัก ๆ แล้วเงินส่วนนี้จะนำไปใช้กับค่าใช้จ่ายเปิดร้านกาแฟแบบรายวัน เช่น วัตถุดิบ บรรจุภัณฑ์ เป็นต้น และค่าใช้จ่ายเปิดร้านกาแฟแบบรายเดือน เช่น ค่าเช่าที่ ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ,ค่าไฟฟ้า, ค่าอินเทอร์เน็ต) และค่าจ้างพนักงาน เป็นต้น
ไม่ว่าคุณจะเปิดร้านกาแฟรูปแบบไหน จะเปิดคาเฟ่เล็ก ๆ ทําร้านกาแฟงบน้อย หรือลงทุนทําร้านกาแฟขนาดใหญไปเลย คุณก็ควรมีงบร้านกาแฟสำรองไว้ในกรณีที่ยอดขายลดลง หรือในระยะเริ่มต้นที่กลุ่มลูกค้ายังไม่ชัดเจนเพื่อร้านกาแฟของคุณยังสามารถเปิดให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง หรือในกรณีที่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ เช่น สถานการณ์โควิด-19 ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การมีเงินลงทุนทําร้านกาแฟสำรองไว้ก็ทำให้คุณยังสามารถกลับมาดำเนินธุรกิจได้ แม้จะไม่ได้เปิดให้บริการมาอย่างต่อเนื่อง
จุดคุ้มทุนคือเป้าหมายรายได้ขั้นต่ำของธุรกิจร้านกาแฟในแต่ละเดือน การที่เราคำนวณจุดคุ้มทุนในแต่ละเดือนไว้ จะทำให้รู้ว่างบ ทําร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่คุณลงไปได้ผลกำไรกลับมาหรือไม่ หรือหากมีรายจ่ายมากกว่ารายรับก็เท่ากับว่าในเดือนนั้นคุณขาดทุน โดยจะคำนวณจากค่าเฉลี่ยของจำนวนแก้วที่ต้องขายต่อเดือนโดยประมาณลบกับค่าใช้จ่ายเปิดร้านกาแฟต่อเดือนทั้งหมด
ใครที่กำลังสนใจเปิดร้านกาแฟอยู่ แต่ยังไม่รู้ว่าควรจะเริ่มต้นเปิดร้านกาแฟจากตรงไหน ลองมาเรียนเปิดคาเฟ่ เรียนเปิดร้านกาแฟกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านกาแฟมากกว่า 10 ของ Hillkoff กัน เรามีคอร์สสอนเปิดร้านกาแฟที่พร้อมจะส่งมอบแนวทางการเปิดร้านกาแฟที่มีประสิทธิภาพ สามารถสร้างกำไรและดึงดูดลูกค้าจนสามารถเปิดร้านขายกาแฟในระยะยาวได้ โดยจะมีตั้งแต่การชงกาแฟเมนูต่าง ๆ, การเป็นบาริสต้า, ลาเต้อาร์ต, Cupping, Slow-bar Coffee, การคั่วกาแฟและการ เตรียมตัวเปิดร้านกาแฟอื่น ๆ อีกมากมาย
คอร์สสอน ทําร้านกาแฟต่าง ๆ ของ Hillkoff ในส่วนของภาคปฏิบัติ คุณจะได้ทำความรู้จักกับทุกอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการชงกาแฟและได้ลงมือทำกับอุปกรณ์และวัตถุดิบจริง เพื่อให้คุณได้เข้าใจหลักการทำและสามารถนำกลับไปใช้ในสนามจริงได้ ส่วนในภาคทฤษฎีคุณจะได้รับองค์ความรู้ใหม่ ๆ ไม่เพียงเฉพาะแต่ในเรื่องของกาแฟ แต่ยังรวมไปถึงเทคนิคการเปิดคาเฟ่ การตลาดของการเปิดร้านคาเฟ่ ต้นทุนการเปิดร้านกาแฟ และกลยุทธ์การทําร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้เหมาะกับตัวตนของคุณ เพื่อสร้างความพร้อมในการทำร้านกาแฟ และทำให้ธุรกิจในฝันร้านกาแฟของคุณเป็นจริง
การเปิดร้านกาแฟสำหรับหลายคนมันคือความฝัน ซึ่งมันคงจะดีถ้าหากความฝันนั้นมันเป็นจริงได้ แต่ในความเป็นจริงการเปิดร้านกาแฟไม่ใช่ว่ามีงบเปิดร้านคาเฟ่ก็สามารถทำได้เลย เพราะแน่นอนว่าคุณต้องทำกาแฟเป็น แม้ว่าจะจ้างบาริสต้าก็ตาม แต่ถ้าคุณเป็นเจ้าของคุณก็ควรรู้จักเมนูร้านกาแฟของคุณให้ดีที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าในหัวข้อข้างบนก็ได้แนะนำคอร์สฝึกอบรมสอนทำกาแฟ และวิธีเปิดร้านกาแฟ แต่ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คือวัตถุดิบ อุปกรณ์และเครื่องชงกาแฟต่าง ๆ สำหรับวัตถุดิบและอุปกรณ์ชงกาแฟต่าง ๆ นั้นคุณสามารถหาซื้อได้เลยที่ร้านค้าของทางฮิลคอฟ ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านโดยตรง หรือสั่งซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ทั้ง Shopee, Lazada หรือแม้แต่ Hillkoff.shop เอง แต่สำหรับพวกเครื่องชงกาแฟนั้นค่อนข้างมีราคาแพง ยิ่งเป็นเครื่องชงกาแฟขนาดใหญ่สำหรับเปิดร้านกาแฟคาเฟ่แล้วนั้นก็ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ บางคนอาจมีงบไม่พอ Hillkoff เองก็เข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี จึงได้พัฒนาบริการให้เช่าเครื่องชงกาแฟและเครื่องเอสเพรสโซ่ เพื่อให้บริการแก่ผู้ที่กำลังเริ่มต้นเปิดคาเฟ่ แต่ยังไม่มีงบพอซื้อเครื่องไม้เครื่องมือแพง ๆ ก็สามารถเข้ามาเช่าเครื่องต่าง ๆ จากเราไปได้ ถือเป็นการช่วยสร้างรากฐานให้ความฝันของคุณนั้นเข้มแข็ง เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเติบโตของร้านกาแฟคุณ
เปิดร้านกาแฟต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง? หากคุณเปิดร้านขายกาแฟสด หลัก ๆ แล้วก็ต้องมี เครื่องบดกาแฟ แทมป์เปอร์กดกาแฟ และเครื่องชงกาแฟ หรือเครื่องเอสเพรสโซ่สักหนึ่งเครื่องติดร้านไว้ เพื่อสกัดเอาเอสเพรสโซ่ออกมาเป็นตัวตั้งต้นในการรังสรรค์เมนูกาแฟต่าง ๆ หากเปิดร้านคาเฟ่เล็ก ๆ แนว Slow-Bar ก็อาจจะเหมาะเครื่องดริปกาแฟมากกว่า หรือคุณเปิดร้านขายชากาแฟก็อาจะเพิ่มอุปกรณ์ชงชาเข้ามา และคุณเปิดร้านขายน้ำเล็ก ๆ ก็อาจจะมีวัตถุดิบสำหรับทำน้ำชงเพิ่มเข้ามา เช่น เครื่องปั่นสมูทตี้ ตู้แช่ และหากคุณยังไม่รู้ว่าควรไปซื้ออุปกรณ์เหล่านี้จากที่ไหน ที่ Hillkoff เรามีให้เลือกซื้ออย่างครบครันทั้งหน้าร้าน และผ่านทางเว็บไซต์ Hillkoff.Shop มีให้เลือกหลากหลายราคา สามารถจัดสรรได้ตามทุนในการเปิดร้านกาแฟของคุณเองได้เลย
จะเปิดร้านคาเฟ่ต้องรู้ก่อนว่าคุณอยากทําร้านคาเฟ่รูปแบบไหน สำหรับประเทศไทยก็จะมีอยู่ 3 รูปแบบที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ได้แก่ Stand Alone รูปแบบร้านกาแฟที่เป็นอาคารหรือตึกแยกออกมาอย่างอิสระในนามของตนเอง ไม่ใช่เปิดแฟรนไช ส์ร้านกาแฟ, Corner รูปแบบร้านกาแฟแบบการตั้งร้านกาแฟตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ไม่เกิน 6 ตารางเมตร ส่วนใหญ่เป็นการเปิดแฟรนไช ส์กาแฟ และรูปแบบสุดท้ายคือ Cart หรือกาแฟรถเข็น ร้านกาแฟขนาดเล็กในพื้นที่ไม่เกิน 3 ตารางเมตรและใช้งบลงทุนทําร้านกาแฟไม่ต้องสูง แต่กำไรเยอะและเข้าถึงลูกค้าได้หลายกลุ่ม
อยากทําร้านกาแฟงบประมาณเท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ? เปิดคาเฟ่ลงทุนไม่เยอะหากเทียบกับผลกำไรที่จะได้รับกลับมา แต่ก็อาศัยการวางแผนเปิดร้านกาแฟอย่างละเอียดและใช้เวลาพักใหญ่ให้ร้านกาแฟหรือคาเฟ่อยู่ในจุดคุ้มทุนตั้งแต่การลงทุนเปิดร้านกาแฟครั้งแรก อย่างไรก็ตามงบประมาณการลงทุนร้านกาแฟควรจะอยู่ที่เท่าไหร่นั้น มักจะขึ้นอยู่กับรูปแบบของร้านกาแฟที่คุณต้องการเปิด หากต้องการเปิดเป็นคาเฟ่ใหญ่ ๆ เงินลงทุนเปิดร้านกาแฟอาจจะเริ่มตั้งแต่ 200,000-1,000,000 บาทขึ้นไป หรือหากเปิดแฟ รน ไช ส์กาแฟ ต้นทุนในการเปิดร้านกาแฟก็อาจจะประหยัดขึ้นเป็น 50,000-200,000 บาท แต่ถ้าอยากเปิดร้านกาแฟแบบเรียบง่าย ทําร้าน กาแฟหน้าบ้าน หรือร้านรถเข็น เงินทุนเปิดร้านกาแฟที่ 20,000-50,000 บาทก็สามารถทำธุรกิจร้านกาแฟได้แล้ว หากคุณสนใจเปิดร้านกาแฟวันนี้ ลองเข้ามาที่ Hillkoff ดู ที่นี่เรามีบริการแบบครบวงจรเพื่อช่วยให้คุณเปิดร้านกาแฟหรือคาเฟ่ของตัวเองได้ แบบครบ จบในที่เดียว
หากคุณอยากเปิดร้านกาแฟคาเฟ่ แต่ไม่รู้จะแริ่มจากตรงไหน ข้อแนะนำของเราคือควรจะเริ่มธุรกิจร้านกาแฟที่ตัวเองก่อน ถามตนเองว่าอยากเปิดคาเฟ่แบบไหน และมีงบเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ อยู่ที่เท่าไหร่ หลังจากนั้นค่อยเริ่มที่ขั้นตอนการเปิดร้านกาแฟ สิ่งแรก คือการหาทำเลสำหรับเปิดธุรกิจร้านกาแฟของคุณ เพราะทำเลนั้นสำคัญมาก ทำเลดีก็จะส่งผลต่อยอดขาย เพราะอยู่ในจุดที่กลุ่มลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย แต่หากคุณอยู่ในจุดที่ผู้คนพบเห็นยาก ก็อาจใช้การประชาสัมพันธ์ในสื่อออนไลน์เข้ามาช่วยให้การทำร้านขายกาแฟของคุณมีผลตอบรับที่ดีขึ้นได้ ตลอดจนใช้ความประทับใจแรกดึงให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ เช่น ที่จอดรถ รสชาติกาแฟ การบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก