Last updated: 22 พ.ค. 2566 | 22713 จำนวนผู้เข้าชม |
แต่บางร้านที่มีลูกค้ามากๆ ถ้าต้องมาแช่ชาทีละแก้วก็อาจจะทำให้เมนูออกช้า ดังนั้นจึงมีการทำเบสชาทิ้งไว้ ไม่ว่าจะเป็น ชาไทย ชาเขียว เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการทำเมนู หากลูกค้าสั่งไม่ว่าจะ ชานม ชาดำเย็น ชามะนาว ก็สามารถผสมเครื่องดื่มเสิร์ฟได้เลย โดยไม่ต้องรอสกัดชา และวันนี้เราก็มีสูตรการทำเบสชามาฝากทุกคนกันค่ะ สำหรับใครที่อยากได้สูตรเตรียมตัวไปทำพร้อมกันเลยค่า
สำหรับการทำเบสชา สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือชาค่ะ การทำเบสชาไทย หรือเบสชาเขียว ใช้อัตราส่วนเหมือนกันเปลี่ยนแค่ชาที่ใช้ค่ะ โดยอัตราส่วนที่ต้องใช้คือ
อัตราส่วน 1:10
-ชา ( ชาที่เราต้องการทำเบส ) 100 กรัม
-น้ำดื่มสะอาด 1000 มิลลิลิตร
อุปกรณ์
หม้อต้มชา ( แนะนำให้ซื้อหม้อต้มแยก สำหรับต้มชาเพียงอย่างเดียวนะคะ ไม่แนะนำให้ใช้หม้อที่ทำอาหารแล้วมาต้มชาค่ะ เนื่องจากชานั้นมีสรรพคุณดูดซับกลิ่นที่ไว หากมีกลิ่นอาหารติดอยู่ในหม้อ อาจจะทำให้ชาของเรามีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์นั่นเองค่ะ )ทัพพี หรือไม้พาย สำหรับคนชา ถุงกรองชา หรือผ้าขาวบางสำหรับกรองกากชา
ขวดแก้วที่มีฝา หรือจุกล็อกปิดสนิท
วิธีทำ
ใส่น้ำ 1000 มิลลิลิตร ลงในหม้อต้ม ยกตั้งเตา ปรับไฟแรง จากนั้นรอจนน้ำในหม้อเดือดหลังจากที่น้ำในหม้อเดือด ปรับไฟให้อยู่ในระดับปานกลาง ใส่ชาลงไป จากนั้นคนชาในหม้อต้ม และต้มต่ออีก 2-4 นาที หลังจากนั้นจึงปิดเตาปิดฝาหม้อ แช่ชาทิ้งไว้ 10 นาที หลังจากนั้นจึงนำไปกรองกากชาออก อาจหาอุปกรณ์สำหรับหนีบ หรือรีดน้ำชาออกจากกากชาให้หมดหลังจากได้เบสชาสกัดเข้มข้น ให้พักทิ้งไว้จนอุณภูมิเย็นลง จากนั้นเทใส่ขวดแก้ว ปิดฝาหรือจุกให้สนิท นำแช่ตู้เย็นทิ้งไว้ 1 คืน แค่นี้ก็จะได้เบสชาสกัดเข้มข้นไว้ใช้ทำเมนูแล้วค่ะ
*วิธีเก็บรักษา แช่ในตู้เย็นอุณหภูมิ 3-6 องศา
*เบสชาสกัดเข้มข้นหลังจากทำแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 3-5 วันเพื่อรสชาติ และกลิ่นหอมของชา ที่สดใหม่อยู่เสมอ ดังนั้นก่อนทำเบสชา ควรวิเคราะห์ยอดขาย และจำนวนแก้วที่เราขายได้ต่อวันด้วยนะคะ เพื่อที่จะได้ทำเบสชาให้พอดีกับยอดขายของเราได้ค่า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้ทุกคนก็จะได้เบสชาสกัดเข้มข้น ไว้ใช้ทำเมนูชาต่างๆกันแล้ว สำหรับสูตรการทำเมนู เมนูชาผสมนม ให้ใช้เบสชา 3 ออนซ์ แล้วผสมนมข้นจืด ข้นหวาน นมสด หรือส่วนผสมอื่นๆตามสูตรของเราลงไปค่ะ ส่วนเมนูชาดำเย็น ชามะนาว ชาน้ำผึ้งมะนาว ให้ใช้เบสชา 2 ออนซ์ เพื่อไม่ใช้เข้มจนเกินไป และลดความฝาด จากนั้นจึงค่อยเติมส่วนผสมอื่นๆลงไปค่ะ
และนี่ก็คือสาระความรู้ และเทคนิคที่นำมาฝากกันวันนี้ บอกเลยว่าทำตามได้ไม่หวงสูตรค่า หากใครชอบ โดนใจ กดไลค์และคอมเมนต์เป็นกำลังใจกันได้นะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่าา
เรียบเรียงโดย : Hillkoff academy
1 มิ.ย. 2566
17 ส.ค. 2567
25 ต.ค. 2567