หลายคนเริ่มลังเล ด้วยกระแสนิยมอันร้อนแรงของชาเขียวมัทฉะในปัจจุบันทำให้หลายคนหันมาทดลองดื่ม นักดื่มหลายท่านหันมาดื่มชาเขียวอย่างจริงจังจนครัวของที่บ้านเต็มไปด้วยอุปกรณ์ชงชาแบบพิธีการ และชาเขียวหลากหลายเกรด แต่หลายคนก็ยังหลงรักกาแฟตัดใจไม่ลง เรามาดูกันค่ะว่าเครื่องดื่มทั้งสองประเภทมีแง่มุมเปรียบเทียบกันอย่างไรบ้าง
หัวข้อ | กาแฟ | ชาเขียว |
ปริมาณคาเฟอีน
| สูง (95-120 mg ต่อถ้วย) | ต่ำกว่า (30-70 mg ต่อถ้วย ขึ้นอยู่กับชนิดชา) |
พลังงานที่ให้ | ตื่นตัวเร็วทันที แต่มีโอกาสเกิดอาการ "คาเฟอีนตก" | ค่อยๆ ปล่อยพลังงานอย่างสม่ำเสมอและยาวนาน |
ผลต่อสมอง | กระตุ้นเร็ว อาจทำให้ใจสั่นถ้าดื่มมาก | มี L-theanine ช่วยให้สงบ ตื่นตัว และมีสมาธิ |
ผลต่อระบบย่อยอาหาร | มีความเป็นกรดสูง อาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร | มีความเป็นกรดต่ำ อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหาร |
สารต้านอนุมูลอิสระ | มีโพลีฟีนอลและกรดคลอโรจีนิก (Chlorogenic Acid) | มีคาเทชิน (Catechins) และ EGCG |
ผลต่อระดับน้ำในร่างกาย | อาจทำให้กระหายน้ำหากดื่มมาก | ช่วยให้ร่างกายชุ่มชื้น |
ผลต่ออารมณ์และความเครียด | ตื่นตัว สดชื่น งดความง่วงซึม แต่อาจเพิ่มความเครียดหรือความวิตกกังวลถ้าดื่มมากเกินไป | มีฤทธิ์ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด |
ประโยชน์ต่อสุขภาพหัวใจ | ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจแต่ก็เพิ่มความดันเลือด ควรจำกัดปริมาณดื่ม | ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและลดความดันเลือดได้ |
ผลต่อการลดน้ำหนัก | ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันในช่วงสั้นๆ | เร่งการเผาผลาญไขมันได้ดีและต่อเนื่อง |
ความสะดวกในการเตรียม | ต้องบดเมล็ดหรือใช้เครื่องชง | ง่ายกว่า เพียงแค่แช่ใบชาในน้ำร้อน |
รสชาติและความนิยม | มีกลิ่นหอมซับซ้อน รสชาติเข้มข้น | รสชาติอ่อนโยน สดชื่น มีกลิ่นหอมบางเบา |
อ่านแล้วก็ยังเลือกไม่ถูกอยู่ดี ฮิลล์คอฟฟ์จึงขอแนะนำให้เลือกเครื่องดื่มให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเราเองดีที่สุดค่ะ
การเลือกเครื่องดื่มที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติ แต่ยังต้องคำนึงถึง สุขภาพ ระดับพลังงาน และความสมดุลของร่างกาย ด้วยนะคะ หากคุณเบื่อกับเครื่องดื่มทั่วไปที่ไม่ส่งเสริมสุขภาพ ลองพิจารณาคุณสมบัติของกาแฟและชาเขียวให้เข้ากับจังหวะชีวิตของเราเองนะคะ
กาแฟ: สำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานเร่งด่วนและความตื่นตัว
• เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการเริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น หรือมีตารางงานแน่นๆ ต้องการกระตุ้นสมองให้ทำงานเร็วขึ้น
• พลังงาน: คาเฟอีนสูง (95-120 mg/แก้ว) ให้พลังงานรวดเร็ว
• ข้อดี: ตื่นตัวทันที เพิ่มสมาธิ กระตุ้นระบบเผาผลาญ
• ข้อเสีย: อาจทำให้ใจสั่น หรือพลังงานตกฮวบหลังหมดฤทธิ์คาเฟอีน
คำแนะนำ:
• ดื่มกาแฟ ไม่เกิน 2 แก้วต่อวัน เพื่อลดผลข้างเคียงของคาเฟอีน
• หากท้องว่างมักจะระคายเคือง ลองเลือก Cold Brew หรือกาแฟที่มีกรดต่ำ
• เพิ่มความหลากหลายด้วย กาแฟผสมนมพืช เช่น อัลมอนด์ หรือนมโอ๊ต เพื่อสุขภาพ
เครื่องดื่มแนะนำ:
• อเมริกาโน่ร้อนหรือเย็น (ช่วยให้สดชื่น ไม่มีน้ำตาล)
• ลาเต้ใส่นมพืช เช่น นมมอลต์ นมอัลมอนด์ (ลดความเป็นกรดของกาแฟ)
• กาแฟ Cold Brew (รสชาติกลมกล่อม ไม่ขมมาก ทานหลังมื้ออาหารลดกลิ่นคาวในปาก)
มัทฉะ: สำหรับพลังงานที่สมดุลและผ่อนคลาย
• เหมาะสำหรับ: คนที่ต้องการพลังงานค่อยๆ ปลดปล่อย ไม่เร่งรีบ และลดอาการคาเฟอีนตก
• พลังงาน: คาเฟอีนปานกลาง (70 mg/แก้ว) + L-theanine ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายแต่มีสมาธิ
• ข้อดี: ให้พลังงานยาวนาน ไม่ใจสั่น มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง
• ข้อเสีย: อาจมีรสขมเล็กน้อย หากชงไม่ถูกต้อง
คำแนะนำ:
• เลือกมัทฉะเกรดพรีเมียมหรือเกรดพิธีกรรม (Ceremonial Grade) หรือเกรดคุณภาพ High Grade เพื่อรสชาติที่นุ่มละมุน
• เติม นมพืช หรือน้ำผึ้ง เพื่อลดความขมและเพิ่มความน่าสนใจ
• ดื่มช่วงบ่ายแทนกาแฟ เพื่อช่วยให้ทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่มีอาการพลังงานตก
เครื่องดื่มแนะนำ:• มัทฉะลาเต้ (อร่อย นุ่ม หอม)
• มัทฉะโซดา (สดชื่น แปลกใหม่)
• มัทฉะสมูทตี้ (เพิ่มสารอาหารจากผลไม้ เช่น มัทฉะมะขามป้อมของฮิลล์คอฟฟ์)
เปลี่ยนบรรยากาศ สลับดื่มตามช่วงเวลา!
เช้า: ดื่ม กาแฟ เพื่อปลุกสมองให้พร้อมทำงาน
บ่าย: เลือก มัทฉะ เพื่อลดความเหนื่อยล้าและช่วยให้สมาธิดีขึ้น
หากต้องการพลังงานด่วน กาแฟเหมาะกว่า แต่หากต้องการพลังงานที่คงที่และสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น ชาเขียวเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
แล้วคุณชอบแบบไหนมากกว่ากันคะ?