Last updated: 22 พ.ค. 2566 | 6792 จำนวนผู้เข้าชม |
ระหว่างนั่งกินกาแฟเราเคยนั่งคิดกันไหมว่า กาแฟที่เราดื่มไปนั้นมีคาเฟอีนอยู่ในกาแฟมากน้อยเท่าไหร่ แล้วเจ้าคาเฟอีนมันคืออะไร การรับเอาคาเฟอีนเข้าร่างกายนั้นควรมีปริมาณเท่าไหร่ มีผลดีต่อร่างกายยังไง
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักเจ้าตัวคาเฟอีนกันก่อนว่าคืออะไร
“คาเฟอีน” นั้นเป็นสารแซนทีนอัลคาลอยด์ ซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์ไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดความตื่นตัวและมีคุณสมบัติในการช่วยลดความง่วงนั่นเอง กาแฟจึงเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมของผู้คนทุกกลุ่ม ยิ่งใครทำงานดึก ๆ หรือต้องเดินทาง ก็มักจะใช้กาแฟมาเป็นตัวช่วยกันทั้งนั้น
หากถามหาความเข้นข้นของคาเฟอีนในกาแฟนั้น ปกติคาเฟอีนในกาแฟเราจะพบว่าเป็นส่วนประกอบที่อยู่ในเมล็ดกาแฟดิบอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าเรานำไปคั่ว ความร้อนนั้นก็จะไม่ส่งผลทำให้คาเฟอีนในตัวกาแฟนั้นสลายไป แต่ส่วนที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในการคั่วกาแฟนั้นจะมีในส่วนของค่าน้ำในเมล็ดกาแฟที่ลดลง จาก 12%เหลือเพียง 2% เท่านั้น ค่าสีเมล็ดกาแฟที่เปลี่ยนตามระดับการคั่ว และที่เกิดขึ้นใหม่ระหว่างการคั่วคือ Co2
ในส่วนของสายพันธุ์กาแฟนั้นก็สามารถแยกปริมาณคาเฟอีนมากน้อยได้เหมือนกัน ซึ่งในส่วนของสารพันธุ์กาแฟ Robusta นั้นจะมีค่าคาเฟอีนมากกว่า Arabica 2 เท่าเลยทีเดียว และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข “กาแฟ” ต้องมีคาเฟอีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 1% ของน้ำหนักปริมาณคาเฟอีนในกาแฟ หรือ กาแฟคั่ว 100 กรัมมีคาเฟอีนมากกว่า 1 กรัมนั่นเอง และในแต่ละวันนั้นการดื่มกาแฟที่เหมาะสมเราควรดื่มวันละ 1-2 แก้วก็พอเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายที่สุด ถ้าหากดื่มมากเกินไปปริมาณคาเฟอีนจะส่งผลเสียต่อร่างการได้ เช่นการนอนไม่หลับ หรือมีอาการปวดหัวตามมา
ในการดื่มกาแฟนั้น หากดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะมีประโยชน์ในหลายด้าน ทั้งการช่วยป้องกันอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยกระตุ้นประสาทในการทำงาน ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจ และในส่วนกาแฟดำนั้นยังสามารถช่วยในการลดน้ำหนักอีกได้ด้วยนะ
เรียบเรียงโดย : Hillkoff Academy
16 ธ.ค. 2567
25 ต.ค. 2567